เจาะลึกรายละเอียดรถ “Chevrolet Camaro Coupe 2016” กันอย่างครบถ้วน

Chevrolet ค่ายรถชื่อดังนั้นได้เตรียมเปิดตัวรถแบบ “Camaro” ออกมาอีกครั้งในปีหน้านี้ โดยถือเป็นความเคลื่อนไหวล่าสุดหลังจากการเปิดตัวรถแบบ Ford Mustang และ Dodge Challenger ของทาง Gm ไปก่อนหน้านี้

โดยในวันนี้ทางพวกเราจะขอนำเสนอรายละเอียดของรถแบบ “Camaro” รุ่นใหม่กันแบบชนิดเจาะลึกกันให้ท่านผู้อ่านชมอย่างจุใจกันไปเลย

การออกแบบ (Design)

เริ่มต้นกันที่งานออกแบบนั้นพวกเขาจะใช้ต้นแบบแรงบันดาลใจมาจากรถ “C7 Corvette” รุ่นล่าสุดแต่จะได้เพิ่มความดุดันเข้าไปภายใต้การออกแบบของทาง Michael McGee ผู้ที่เป็นหัวหน้างานทีมออกแบบของทาง  Chevrolet Camaro เมื่อปีที่แล้วนั่นเอง

โดยการเริ่มต้นนั้นพวกเขาจะติดต่อกับทีมงานของ  Chevrolet ในศูนย์การออกแบบกลางหรือ corporate design ซึ่งพวกเขาอาจจะมีการออกแบบเบื้องต้นและเรนเดอร์ภาพคร่าวๆต่อจากนี้มาให้พวกเราได้รับชมถึงงานและความคืบหน้ากันเป็นระยะๆ

ทางด้านไฟหน้านั้นคาดการณ์ว่าจะได้รับการออกแบบให้มีขนาดเล็กลงกว่าเดิม, ฝากระโปรงหน้านั้นจะใช้ต้นแบบจากทางรถแบบ C7, กระจังหน้าได้รับการออกแบบให้เรียวเล็กกว่าเดิมและปิดท้ายด้วยตำแหน่งของเสา Pillar ที่กว้างขึ้นกว่าเดิมสำหรับรถแบบ  Camaro และ Corvette รุ่นต่อจากนี้โดยเฉพาะ

ปิดท้ายกันด้วยตำแหน่งของห้องโดยสารด้านหลังนั้นจะได้รับการยกนูนมากขึ้นกว่าเดิมในมุมโค้งและทำให้รูปลักษณ์และรูปร่างของมันนั้นดูแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิม, ไฟหลัง (ไฟท้าย) ในแบบสไตล์ Flush ปิดท้ายด้วยด้านท้ายที่กระชับและตรงกว่าเดิม

ภายในรถ (Interior)

มาต่อกันด้วยการออกแบบภายในที่ค่ายรถชื่อดังจากเมือง Detroit นั้นพยายามตกแต่งให้มันดูหรูหราในภาพรวมทางด้านกว้าง, ลดการสั่นสะเทือนและลดตำแหน่งของช่วงล่างลง รวมไปถึงตำแหน่งของกระจกนั้นจะเปิดกว้างขึ้นกว่าเดิมเพื่อทำให้ภูมิทัศน์นั้นดีขึ้นกว่าเดิม

โดยคอนเซปต์การออกแบบครั้งนี้นั้นยังได้มีการตกแต่งรายละเอียดต่างๆและคัดสรรค์วัสดุที่นำมาทำอย่างยอดเยี่ยม โดยพวกเขาถึงกับกล่าวว่าหากทุกคนคิดว่ารถแบบ Mustang นั้นมีการตกแต่งภายในที่ยอดเยี่ยมแล้วนั้นรถแบบ  2016 Camaro Coupe นั้นคงยอดเยี่ยมกว่า

ด้านเครื่องยนต์ (Power)

สำหรับใน generation ต่อไปนั้นพวกเขาจะเน้นไปทางด้านประสิทธิภาพของเครื่องยนต์มากขึ้นกว่าเดิมโดยใช้ขนาดความจุ 3.6 ลิตรแบบ 8 สูบเลยทีเดียวในรุ่นสูงสุด นอกจากนั้นยังมีเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตรแบบ turbocharged 4 สูบโดยใช้เกียร์อัตโนมัติแบบ 7 และ 8 สปีดในการทำงานร่วมกัน

แต่อย่างไรก็ตามมีข่าวลือบางส่วนว่าเครื่องยนต์ที่ใช้นั้นอาจจะเป็นขนาด 7.0 ลิตรแบบ  monster ที่เคยใช้ในรถแบบ  2014 Z/28 ก็เป็นได้ นอกจากนี้เครื่องยนต์แบบ LT1 6.2 ลิตร V8 นั้นก็เป็นตัวเลือกอีกหนึ่งอย่างที่พวกเขาอาจจะใช้เช่นกัน

การควบคุมและรูปทรง (Platform & Handling)

พวกเขาจะทิ้งเทคโนโลยีแบบ Zeta และหันมาใช้แบบ  Alpha ในการควบคุม โดยใช้แฟลตฟอร์มแบบ Holden Commodore-based ในรุ่นที่ 5 ซึ่งจะพัฒนาพร้อมกับทางรถแบบ Cadillac ATS ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ โดยจุดเด่นของการควบคุมแบบใหม่นั้นมีมากมายหลายประการเช่นกัน

โดยข้อดีของแบบ Alpha ดังกล่าวนั้นคือน้ำหนักที่เบามากกว่าเดิมและจากข้อดีดังกล่าวนั้นก็ทำให้เกิดประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมกว่าเดิมและประหยัดน้ำมันกว่ารุ่นปกติ (รถแบบ Zeta นั้นอาจจะหนักมากกว่า) นอกจากนี้ยังช่วยให้ระบบควบคุมต่างๆภายในตัวรถนั้นยอดเยี่ยมากขึ้นกว่าเดิมและตอบรับเข้ากับช่วงล่างเป็นอย่างดี

The Competition (การแข่งขัน)

ย้อนไปก่อนหน้านี้จนถึงช่วงปี 1967 นั้นรถแบบ Mustang นั้นเป็นรถที่ยอดเยี่ยมที่สุดของทาง GM แต่อย่างไรก็ตามทางแบรนด์อย่าง Chevrolet ก็ยังคงเป็นคู่แข่งอยู่ห่างๆถึงแท้จะอยู่ภายใต้แบรนด์ใหญ่ด้วยกัน ส่วนคู่แข่งอื่นๆนั้นก็ได้แก่ รถของทาง Dodge Challenger, Subaru BRZ/Scion GT-8 และรถแบบ Hyundai Genesis เป็นการส่งท้าย

CHEVROLET ปรับโฉม CAMARO นำทัพสู้ศึกในภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ Transformers 4

กรุงเทพฯ – เชฟโรเลต คามาโร รถสปอร์ตสุดเท่เตรียมแปลงร่างเป็นบัมเบิลบีออกกู้โลกอีกครั้งในภาพยนตร์ ทรานส์ฟอร์เมอร์สภาคล่าสุด (มหาวิบัติยุคสูญพันธุ์) ของ ผู้กำกับไมเคิล เบย์ในวันที่ 25 มิถุนายนนี้ ซึ่งในโอกาสนี้เชฟโรเลตประเทศไทยได้จัดกิจกรรมฉายภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์ที่ ห้างสรรพสินค้าสยาม พารากอน

บรรยากาศภายในงานเป็นไปด้วยความสนุกสนานทั้งการโชว์เปิดแผ่นจากดีเจชื่อดัง การเต้นสุดเร้าใจจากทีม STOMP พร้อม ทั้งดารานักแสดงที่เข้าร่วมงาน รวมถึงเชฟโรเลตโซนิคที่มาพร้อมกราฟฟิกลายทรานส์ฟอร์เมอร์สเหมือน กับโซนิคที่ปรากฏโฉมในภาพยนตร์ เชฟโรเลตเชิญชวนให้แขกผู้มีเกียรติร่วมกิจกรรม ‘Shoot & Share’ ถ่ายภาพตนเองคู่กับรถโซนิค โพสต์ขึ้นอินสตราแกรมพร้อมแฮชแท็ก #Chevroletthai ผู้ที่ได้รับการกดไลค์มากที่สุดจะคว้ารางวัลสุดพิเศษจากเชฟโรเลตไปครอง

“เรารู้สึกตื่นเต้นมากสำหรับงานรอบปฐมทัศน์ภาพยนตร์ทรานส์ฟอร์เมอร์สใน ประเทศไทย” มร.มาร์คอส  เพอร์ตี้ กรรมการผู้จัดการ เจนเนอรัล มอเตอร์ส ประเทศไทย และเชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทย กล่าว  “ทุกครั้งที่ทรานส์ฟอร์เมอร์สภาคใหม่ออกฉาย ถือเป็นช่วงเวลาพิเศษของเชฟโรเลต เพราะเราจะมีโอกาสได้เห็นแบรนด์เชฟโรเลตในรูปแบบที่น่าตื่นเต้น โดยเฉพาะภาคล่าสุดนี้ที่มีคอร์เวทท์ สติงเรย์และโซนิค แรลลี่คาร์เคียงข้างกับคามาโร บัมเบิลบี”

ทรานส์ฟอร์เมอร์สภาคล่าสุดนับเป็นภาคที่สี่ของภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เรื่อง นี้ ซึ่งที่ผ่านมาทั้งสามภาคทำให้ยอดขายของคามาโรพุ่งสูงเป็นอันดับหนึ่งในกลุ่ม รถระดับเดียวกันตลอดสี่ปีที่ผ่านมา

“การเป็นส่วนหนึ่งในภาพยนตร์ทรานส์ฟอร์เมอร์สทำให้จีเอ็มแสดงศักยภาพใน การออกแบบได้อย่างเต็มที่ภาพยนตร์ระดับโลกเรื่องนี้ช่วยให้การออกแบบที่ล้ำ สมัยของเราเผยแพร่สู่สายตาลูกค้าในวงกว้างมากกว่าการนำเสนอในรูปแบบเดิม” เอ็ด เวลเบิร์น รองประธานฝ่ายออกแบบของจีเอ็มโกลเบิล กล่าว

ทิม มาโฮนีย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาดของเชฟโรเลตโกลเบิล กล่าวว่า “เชฟโรเลตสวมบทบาท ฮีโร่ในภาพยนตร์ทรานส์ฟอร์เมอร์สทุกภาค ทำให้รถของเราเข้าถึงเด็กได้ทุกกลุ่มทั่วโลก”

ทรานส์ฟอร์เมอร์ส (2007)

ทรานส์ฟอร์เมอร์สภาคแรก บัมเบิลบีมีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่สุด เริ่มจากคามาโร เจนเนอเรชั่นที่สองรุ่นปี 1977 ในสภาพเก่าคร่ำคร่า เต็มไปด้วยสนิมและสีที่หลุดร่อน ตัวถังสีเหลืองอันโด่งดังนั้นเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบ

บัมเบิลบีเปลี่ยนโฉมกลายเป็นคามาโร เจนเนอเรชั่นที่ห้าในเวลาต่อมา อย่างไรก็ตาม ภาพยนตร์เรื่องนี้ออกฉายในเดือนกรกฎาคม 2007 ก่อนหน้าที่คามาโรจะออกจำหน่ายสองปี เชฟโรเลตจึงต้องสร้างรถต้นแบบ รุ่นพิเศษเพียงคันเดียวในโลกสำหรับใช้ในภาพยนตร์เรื่องนี้

คามาโรคันดังกล่าวใช้ตัวถังที่ผลิตจากแม่พิมพ์เดียวกับที่ผลิตรถต้นแบบคา มาโร คอนเซ็พท์ ปี 2006 ซึ่งออกโชว์ตัวในงานแสดงรถยนต์ในปีก่อนหน้า ตัวถังรถถูกประกอบบนโครงสร้างแชสซีส์ของโฮลเด้น โมนาโรเพื่อให้สามารถโลดแล่นในภาพยนตร์ได้

ด้วยบทบาทอันโดดเด่นในภาพยนตร์ทรานส์ฟอร์เมอร์ส ทำให้คามาโร เจนเนอเรชั่นที่ห้ากลายเป็นรถที่ เท่ที่สุดที่ออกสู่ตลาดในอีกหลายปีต่อมา

ทรานส์ฟอร์เมอร์ส Revenge of the Fallen (2009) และ Dark of the Moon (2011)

ทรานส์ฟอร์เมอร์ส ภาค Revenge of the Fallen ออกฉายไม่กี่เดือนหลังจากคามาโรรุ่นล่าสุดออกจำหน่าย คามาโรในภาพยนตร์จึงถูกปรับแต่งให้แตกต่างจากรุ่นปกติ โดยตัวถังสีเหลืองของคามาโรถูกคาดด้วยเส้นสาย สีดำจากฝากระโปรงหน้าไปถึง ท้ายรถ ขณะที่ฝากระโปรงยังมีช่องดักอากาศและติดตั้งกันชนหน้าชุดใหม่

สำหรับทรานส์ฟอร์เมอร์ส Dark of the Moon บัมเบิลบีถูกยกระดับให้เป็นรุ่นเอสเอส โดยมีการปรับแต่งสีตัวถังเพิ่มเติมเล็กน้อยให้เป็นโทนเหลืองอำพันแทนที่สี เหลืองแบบดั้งเดิม ขณะที่ล้อมีสีเข้มขึ้น เส้นสายคาดตัวถังที่ใหญ่ขึ้นและใช้กระจกมองข้างสีดำ

ทรานส์ฟอร์เมอร์ส Age of Extinction (2014)

สำหรับในภาคล่าสุด ไมเคิล เบย์ผู้กำกับภาพยนตร์ได้ขอให้ทีมนักออกแบบของจีเอ็ม ทำการปรับดีไซน์บัมเบิลบีให้มีความทันสมัย โดยปรับเปลี่ยนให้หุ่นยนต์ตัวเอกมีความดุดันและดูแข็งแกร่งกว่าเดิม ซึ่งหน้าที่นี้รับผิดชอบโดยทีมนักออกแบบที่ศูนย์การออกแบบ นอร์ธ ฮอลลีวูด ดีไซน์ เซ็นเตอร์ของจีเอ็ม (North Hollywood Design Center)

ศูนย์การออกแบบแห่งนี้ตั้งอยู่ไม่ห่างจากพาราเมาท์ พิคเจอร์ส มีหน้าที่สร้างสรรค์ออกแบบยานยนต์ที่ทันสมัยที่สุดของจีเอ็มก่อนที่จะติดโล โก้โบว์ไท

ทีมนักออกแบบได้สร้างสรรค์รถสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้โดยเฉพาะ โดยปรับรูปลักษณ์ด้านหน้าและด้านข้างใหม่เพื่อให้บัมเบิลบีมีความปราดเปรียว และดุดันยิ่งขึ้น ทิศทางการออกแบบเช่นนี้สามารถพัฒนาต่อยอดในอนาคตได้

อย่างไรก็ตามหุ่นยนต์เพียงตัวเดียวไม่สามารถต่อกรกับเหล่าวายร้ายได้ ทีมนักออกแบบจึงสร้างสรรค์คอร์เวทท์ สติงเรย์ สีเขียวสุดเท่ซึ่งรับบทบาทครอสแฮร์สและเชฟโรเลต โซนิค แรลลี่ คาร์ขึ้นมาด้วย นอกจากนี้ยังมีเชฟโรเลต แทรกซ์ซึ่งเพิ่งออกจำหน่ายในประเทศจีนและเตรียมทำตลาดสหรัฐอเมริกาในช่วงต้น ปีหน้า

ภาพยนตร์แห่งนี้ถ่ายทำในสำนักงานของจีเอ็ม หลายแห่ง ทั้งในสนามทดสอบสมรรถนะของจีเอ็ม ในมิลฟอร์ด รัฐมิชิแกน ศูนย์การออกแบบของจีเอ็มในวอร์เรน มิชิแกน ห้องทำงานของมร.เวลเบิร์น และภายในศูนย์การผลิตเดลต้า ทาวน์ชิพในเมืองแลนซิง มิชิแกน

การถ่ายทำที่ศูนย์เทคนิควอร์เรนมีการใช้นักแสดงเข้าร่วม 200 คนและรถพ่วง 50 คัน โดยตลอดการถ่ายทำแทบจะไม่มีผลกระทบต่อการทำงานภายในศูนย์เทคนิคเลย

นักทดสอบรถชื่อดังเข้าตารางหลังทดสอบรถเร็วเกินกำหนดในรัฐ Virginia

มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับสามัญสำนึกในการขับขี่อยู่แล้วสำหรับการควบคุมเรื่องวินัยจราจรและความเร็วที่แต่ละนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่คนขับจะต้องพึงระวังและตระหนักอยู่เสมอ

โดยล่าสุดนั้นเราได้พบว่าคราวของรถแบบ Chevy Camaro ZL1 (มีรูปภาพแนบมาให้) ที่ขับโดยทาง Patrick George ผู้ทดสอบรถของทาง Jalopnik สื่อชื่อดังนั้นมาโดนจับเสียเอง

ซึ่งเจ้าตัวนั้นถูกตรวจจับความเร็วในบริเวณรัฐ Virginia, ของประเทศสหรัฐอเมริกาโดยความเร็วนั้นอยู่ที่ 93 ไมล์ (148 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งมันเกินที่กฎหมายนั้นกำหนด)

แต่โทษนั้นไม่หนักหนาสาหัสเท่าไร โดยเขาถูกควบคุมตัวไปในคุกท้องถิ่นประมาร 3 วันตามมาตรการของรัฐ เพราะกฎหมายท้องถิ่นเรื่องการขับรถของรัฐ  Virginia นั้นแรงมากเพราะมีโรงเรียนและสถานที่สำคัญๆอยู่มากมาย

Video

สปอร์ตแบบ “Corvette ZR1” เตรียมเปลี่ยนไปใช้เครื่องยนต์กลางคัน

ถือเป็นข่าวคราวครั้งสำคัญของวงการยานยนต์เลยทีเดียวหลังจากมีการเปิดเผยว่ารถสปอร์ตแห่งยุคอีกรุ่นหนึ่งอย่าง “Corvette ZR1” นั้นอาจจะหันไปใช้เครื่องยนต์ขนาดกลางแบบ Mid-Engine แทนที่การใช้เครื่องยนต์ด้านหน้าแบบเดิมตามรายงานจาก MotorTrend

สำหรับต้นแบบของรถสปอร์ตรุ่นใหม่นี้นั้นจะใช้ต้นแบบมาจากรถสปอร์ตอีกรุ่นอย่าง Vetta และในอนาคตอาจจะนำไปใช้สำหรับรถแบบ ZR1, Corvette (C8s) และสปอร์ตรุ่นอื่นๆอีกด้วย

โดยในขณะนี้พวกเขาจะลองทดสอบกับรถสปอร์ตแบบ Corvette ในตัวต้นแบบก่อน (ในรูปเป็นตัวต้นแบบอย่างรุ่น 1964 CERV II Concept) ที่มีเครื่องยนต์ขนาดกลางเช่นเดียวกัน โดนทางหัวหน้าทีมงานของ GM นั้นจะตัดสินใจอีกรอบเพื่อให้มันสมบูรณ์แบบที่สุด

แตjการพัฒนานั้นอาจจะไม่ถึงรถสปอร์ตรุ่นอื่นๆที่ใช้เครื่องยนต์ด้านหลังเช่น Camaro  และ Cadillac ATS โดยสาเหตุที่เปลี่ยนครั้งนี้เพราะพวกเขาอยากจะให้มันมีลักษณะคล้ายรถแบบ Porsche 911 – Cayman – Boxster นั่นเอง

Chevrolet เปิดตัวรถแบบ Camaro  ในแบบชุดแต่ง “Commemorative Edition“

หลังจากที่เพิ่งจะเปิดตัวรถแบบ “Camaro SS special edition model” ไปไม่นานมานี้นั้น ทางค่ายรถอย่าง Chevrolet ก็ได้พร้อมจะเปิดตัวรถในแบบ Camaro รุ่น Generation ที่ห้าแล้วในชื่อแบบ “Commemorative Edition” ในงาน SEMA SHOW

เจ้ารถรุ่นพิเศษแบบ  special edition model คันนี้จะเริ่มขายในช่วงฤดูใบไม้ผลิของปี 2015 ในแบบ 2LT, 2SS coupes และโฉมแบบ convertibles ที่จะมาพร้อมกับชุดแต่งแบบ RS package ที่ประกอบไปด้วยล้อแม็กซ์ขนาด 20 นิ้ว, สปอยเลอร์ทางด้านหลังและสัญลักษณ์ของ “Commemorative Edition”

รถแบบ  2015 Chevrolet Camaro Commemorative Edition นั้นจะประกอบไปด้วย 5 เฉดสีให้เลือกสรรค์ ได้แก่ สีดำคาดเทา,  เทาเงินเมทาลิค, ขาวไวท์คาดเทา,  เทาเมทาลิคคาดเทาเข้ม และสีแดงคาดดำสนิท

สำหรับการตกแต่งภายในนั้นจะใช้เป็นเบาะหนังในโทนสีแบบ Adrenaline Red (แดงอะดีนารีน) และดำสนิท ทั้งบริเวณเบาะที่นั่งและบริเวณตำแหน่งของคอนโซลทั้งหมด ปิดท้ายด้วยโลโก้ของ Commemorative Edition

โดยทางค่ายอย่าง GM นั้นขายรถไปแล้วกว่า 400,000 คันเฉพาะในรุ่น Camaro นับตั้งแต่เปิดตัวในเดือนเมษายนปี 2009 และมียอดขายนำคู่แข่งอย่าง Ford Mustang อยู่ 10,000 คันเมื่อนับถึงสิบเดือนแรกของปี 2014

เปิดตัว 2015 Chevrolet COPO Camaro รถซิ่งในงานอย่าง SEMA Show

Chevrolet ยังคงเดินหน้าต่อเนื่องในการเปิดตัวรถในแบบที่ 4 แล้วสำหรับงานอย่าง SEMA Show โดยในครั้งนี้จะมาในรูปแบบของรถแข่งแบบ  COPO Camaro ซึ่งจะเปิดตัวการผลิตออกมาแค่ 69 คันเท่านั้น

สำหรับรถแบบ 2015 COPO Camaro นั้นจะถูกใช้ในการแข่งขันในรายการ NHRA Stock Eliminator และ  Super Stock classes ในเมือง  Las Vegas  ซึ่งตัวรถนั้นจะทำโทนสีออกมาแบบเทา-ส้มพร้อมลายกราฟฟิกสวยงาม

ในส่วนของเครื่องยนต์นั้นจะเป็นแบบ 5.7 ลิตรแบบ V8 รวมไปถึงแบบ 2.9 ลิตรในระบบ Whipple supercharger ปิดท้ายด้วยแบบ 327 supercharged ในขนาด 2.9 ลิตรและ 4.0 ลิตร

เจ้ารถแข่งคันนี้นั้นจะประกอบไปด้วยอุปกรณ์เซฟตี้มากมาย เช่น ปุ่มสตาร์ทปิด-เปิดฉุกเฉินสำหรับรองรับการเกิดเหตุไม่คาดฝัน, ระบบโรลบาร์ภายในพร้อมเข็มขัดนิรภัยเต็มรูปแบบปิดท้ายด้วยระบบช่วงล่างกันสะเทือนที่ออกแบบใหม่ทั้งหมด

นอกจากนี้ยังมีชุดแต่งแบบอื่นๆใหม่ทั้งหมด ที่เป็นการออกแบบและดีไซน์ของทางทีมงาน COPO Camaro อย่างเป็นทางการที่ทำออกมาโดยเฉพาะ

เปิดตัว “2016 Chevrolet Camaro” ด้วยกำลังเครื่องยนต์สูงสุด 455 แรงม้า!!!

ในที่สุดรถสปอร์ตรุ่นโหดอย่าง 2016 Chevrolet Camaro ก็ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว, โดยเป็นตัวแทนของค่ายในการแข่งขันกับรถอย่าง Ford Mustang. ตามรายงานของสื่ออย่าง CNBC ซึ่งพวกเขาจะพัฒนาทั้งทางด้านรูปลักษณ์ภายนอกและประสิทธิภาพที่ดีขึ้น

รถสปอร์ตแบบ 2016 Camaro’s performance รุ่นล่าสุดนี้จะศึกษามาจากตัวต้นแบบอย่างทาง “Zeta platform” ที่ได้รับความร่วมมือกับแบรนด์อย่าง Holden ซึ่งเป็นแนวเดียวกับรถอย่าง Commodore, Pontiac G8 และ Chevy SS. และใช้การขับเคลื่อนล้อหลังเหมือนรถ Cadillac ATS

นอกจากนี้พวกเขายังมีเป้าหมายในการดีไซน์ออกแบบโดยรถรุ่นใหม่ของเจ้า Camaro นี้จะมีน้ำหนักเบาลงทั้งสิ้น 200 ปอนด์ พร้อมทั้งออกแบบแพลตฟอร์มใหม่ในแบบ 2 ประตู Sedan และสั้นกว่าเดิม 2.3 นิ้วในภาพรวมของความยาว

สำหรับรถสปอร์ตรุ่นนี้โด่งดังมาจากภาพยนตร์ 2007 Transformers ซึ่งทั้งรถสปอร์ตแบบ RS และ SS Model มีจุดเด่นไฮไลท์สำคัญอยู่ที่ไฟ LED ซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่นมาตั้งแต่รุ่นดั้งเดิมที่ทำให้มันมีเอกลักษณ์และใครๆล้วนก็จำได้ว่าเป็นรถรุ่นนี้

ในส่วนของเครื่องยนต์จะใช้เป็นขนาด 2.0 ลิตรเทอร์โบจากรุ่นแบบ ATS และ CTS ให้กำลังทั้งสิ้น 270 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 295 lb.-ft. of torque. พร้อมมีอัตราเร่งจาก 0-60 ไมล์/ชม. อยู่ที่ 6 วินาทีซึ่งน้อยกว่ารถแบบ Ford Mustang ขนาดเครื่องยนต์ 2.3 ลิตรเสียอีก

แต่ก็ยังมีออฟชั่นเพิ่มเติมให้กับผู้ซื้อรถแบบ Camaro ที่ต้องการเครื่องยนต์ขนาดใหญ่กว่าเดิมด้วยความจุทั้งสิ้น 3.6 ลิตรแบบ V6 ให้กำลัง 33 แรงม้าที่เปิดตัวไปแล้วกับรถอย่าง 2016 Cadillac CT6 sedan. ก่อนหน้านี้

ต่อมาคือรุ่นท็อปสุดแบบ “2016 Camaro SS” ที่ใช้เครื่องยนต์ขนาด 6.2 ลิตรแบบ V8 ในรุ่นอย่าง Chevrolet Covette ให้กำลังมากถึง 455 แรงม้าพร้อมเกียร์อัตโนมัติขนาด 6 สปีดและ 8 สปีดตามลำดับ

นอกจากนี้รถแบบ “The Camaro SS” ยังใช้ระบบการควบคุมรถแบบใหม่ล่าสุดด้วยเทคโนโลยีแบบ magnetic ride control (การควบคุมแบบเม็กเนติค) และระบบเบรคความปลอดภัยสูงเป็นชุดจัดเต็มของทาง Brembo ที่มีความนุ่มนวลมากกว่าเดิม

ในส่วนของการตกแต่งภายในนั้นจะเป็นสไตล์แบบ Retro (เร็ทโทย้อนยุค) แต่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีระดับสูงที่ไม่ซ้ำใคร เช่น หน้าจอทัชสกรีนขนาด 8 นิ้วแบบความละเอียดสูงพร้อมข้อมูลอัดแน่น (infotainment system), ระบบควบคุมอุณหภูมิแบบ Heating controls และระบบเบรคอัตโนมัติแบบ electronic parking brake (ใช้ไฟฟ้า)

อีกทั้งยังมีไฟภายในแบบ Interior Spectrum Lighting (แสงสเปคตรัม) ที่ช่วยให้โทนสีภายในที่แตกต่างกันมากกว่าเดิมถึง 24 แบบทั้งบริเวณแผงหน้าปัดและบริเวณคอนโซลกลาง ช่วยทำให้ภายในนั้นดูสวยงามขึ้นกว่าเดิม

สำหรับประวัตินั้นรถแบบ Camearo เปิดตัวครั้งแรกโดยทาง Chevy ในวันที่ 12 กันยายนในปี 1966 และประสบความสำเร็จเคียงคู่กับรถสปอร์ตแบบ Ford Mustang จนกลายเป็นคู่แข่งสำคัญจนถึงทุกวันนี้

โดยรถสปอร์ตทรงพลังแบบ 2016 Camaro นั้นจะเปิดตัวในโชว์รูมอย่างเป็นทางการในฤดูใบไม้ร่วงนี้

Chevrolet Camaro 2016 โฉมใหม่ยกระดับความแรง

กรุงเทพฯ – เชฟโรเลต คามาโร เจนเนอเรชั่นที่หกเผยโฉมแล้วที่เมืองดีทรอยท์ของสหรัฐอเมริกา มาพร้อมการยกระดับสมรรถนะ เทคโนโลยีและความประณีต รวมถึงการออกแบบ เพื่อคงความเป็นผู้นำของเซกเมนท์รถสปอร์ตที่ครอบครองมาตลอดระยะเวลาห้าปี

คามาโร เจนเนอเรชั่นที่หกมอบประสบการณ์ขับขี่ที่รวดเร็วและเร้าใจยิ่งขึ้น ด้วยการใช้โครงสร้างน้ำหนักเบาและเครื่องยนต์ที่ตอบสนองการใช้งานได้หลาก หลายกว่าเดิม ขุมพลังหกรุ่นใหม่เอี่ยมมีทั้งเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบ และเครื่องยนต์ V6 3.6 ลิตรใหม่ และรุ่น LT1 เครื่องยนต์ V8 6.2 ลิตร ซึ่งให้พละกำลัง 455 แรงม้า แรงบิด 617 นิวตันเมตร ถือเป็นคามาโร SS ที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยผลิตมา ทุกเครื่องยนต์ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีดและเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด

คามาโรใช้แพลทฟอร์มที่มีน้ำหนักเบาและแข็งแกร่งกว่าเดิม ส่วนมิติตัวถังเล็กลงซึ่งทำให้รูปลักษณ์มีความปราดเปรียว โดยได้รับการพัฒนาในอุโมงค์ลม ยกระดับความลู่ลมตามหลักอากาศพลศาสตร์เพื่อสมรรถนะการขับขี่ที่ดีขึ้นและ เพิ่มความประหยัดเชื้อเพลิง

ภายในห้องโดยสารถูกออกแบบโดยให้ความสำคัญกับผู้ขับขี่ด้วยการผสมผสาน เทคโนโลยีที่ดีที่สุดในเซกเมนท์ รวมถึงฟังก์ชั่น Driver Mode Selector มาตรวัดที่ปรับแต่งได้และแสงไฟสร้างบรรยากาศที่ปรับเปลี่ยนได้ตามต้องการ

“การออกแบบคามาโรเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นและท้าทาย เคล็ดลับสำคัญอยู่ที่การยกระดับคุณภาพทุกด้าน” มาร์ก รอยส์ รองประธานบริหารฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ของเจนเนอรัล มอเตอร์สกล่าว “ผู้ที่หลงใหลในคามาโรจะพบว่าคามาโรรุ่นใหม่ยังคงรักษาเอกลักษณ์การออกแบบ ที่ยอดเยี่ยม พร้อมยกระดับสมรรถนะเพิ่มเติม ขณะที่ลูกค้าคนรุ่นใหม่จะเล็งเห็นว่าคามาโร รุ่นปี 2016 มาพร้อมกับนวัตกรรมใหม่ที่มีสมรรถนะและการออกแบบชั้นนำ”

เชฟโรเลต คามาโร เจนเนอเรชั่นที่หกจะออกจำหน่ายภายในปีนี้ โดยมีรุ่นย่อย LT และ SS จีเอ็มยังผลิตและจัดจำหน่ายรถเชฟโรเลตในประเทศไทยทั้งรถกระบะ โคโลราโด รถพีพีวี เทรลเบลเซอร์ รถเอสยูวี แคปติวาและรถซีดาน ครูซ

คามาโร เจนเนอเรชั่นที่หกใช้ชิ้นส่วนเพียงสองชิ้นจากเจนเนอเรชั่นที่ห้า นั่นคือโลโก้โบว์ไทและ
โลโก้ SS เท่านั้น

เชฟโรเลตไม่เพียงมุ่งพัฒนาคามาโรรุ่นใหม่ให้เป็นคามาโรที่ดีที่สุดเท่า ที่เคยผลิตมาเท่านั้น แต่ยังเป็นรถสมรรถนะสูงที่ดีที่สุดในตลาดเวลานี้ โดยให้ความสำคัญที่การพัฒนาสามด้านหลัก

สมรรถนะ

• น้ำหนักของตัวรถลดลง 200 ปอนด์หรือมากกว่านั้นตามรุ่นย่อย ทำให้การตอบสนองต่อการขับขี่เป็นไปอย่างรวดเร็วและทันใจยิ่งขึ้น
• ถือเป็นคามาโรที่ประหยัดน้ำมันที่สุด เครื่องยนต์ 2.0 ลิตรให้พละกำลัง 275 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตันเมตร มีอัตรากินน้ำมันที่ 12.75 กม./ลิตร (จากการประเมินของจีเอ็ม) อัตราเร่ง 0-96 กม./ชม. ทำได้ภายใน 6 วินาที
• สมรรถนะชั้นเลิศในรุ่นเครื่องยนต์ V6 ความจุ 3.6 ลิตร ไดเรคอินเจคชั่น วาล์วแปรผันต่อเนื่อง และเป็นครั้งแรกที่ติดตั้งระบบ Active Fuel Management (หยุดการทำงานของลูกสูบ) รีดพละกำลัง 335 แรงม้า แรงบิด 385 นิวตันเมตรซึ่งถือเป็นเครื่อง V6 แบบไร้เทอร์โบที่แรงที่สุดในเซกเมนท์นี้
• รุ่นที่ทรงพลังที่สุดเป็นคามาโร SS ใช้เครื่องยนต์บล็อก V8 6.2 ลิตร LT1 ไดเรคอินเจคชั่น ให้พละกำลัง 455 แรงม้า แรงบิด 617 นิวตันเมตร
• ระบบช่วงล่าง Magnetic Ride Control ติดตั้งในรุ่นคามาโร SS เป็นครั้งแรก
• ด้วยการปรับปรุงสมรรถนะและการควบคุม คามาโร SS สามารถทำความเร็วได้เหนือกว่า Camaro 1LE เจนเนอเรชั่นที่ห้าที่ได้รับการพัฒนาสำหรับสนามแข่ง

เทคโนโลยี

• สามารถเลือกโหมดการขับขี่ด้วยฟังก์ชั่น Drive Mode Selector รุ่นใหม่ ซึ่งมีให้เลือก 4 โหมดคือ Snow/Ice, Tour, Sport รวมถึงโหมด Track ในรุ่น SS

• แสงไฟในห้องโดยสาร Interior Spectrum Lighting ครั้งแรกในเซกเมนท์นี้ มอบแสงไฟ 24 รูปแบบบนแดชบอร์ด แผงประตูและคอนโซลกลาง
• หน้าจอสีความละเอียดสูงที่รองรับการปรับแต่งได้ พร้อมด้วยหน้าจอคู่แสดงผลการทำงานของตัวรถขนาด 8 นิ้ว

การออกแบบ

• ยกระดับภาพลักษณ์ความปราดเปรียวและโดดเด่นบนโครงสร้างอันแข็งแกร่งและ เพรียวบางกว่าเดิม มาพร้อมเทคโนโลยี LED เอกลักษณ์เฉพาะรูปแบบใหม่
• เปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถเลือกการตกแต่งได้หลากหลายยิ่งขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นสีตัวถังภายนอกที่มีถึง 10 เฉดสี สีภายในห้องโดยสารอีก 5 เฉดสี แสงไฟและอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษที่ศูนย์ผู้จัดจำหน่าย ทั้งล้อ การคาดลวดลายภายนอก และอุปกรณ์เพิ่มเติมอื่นๆ
• การออกแบบให้ความสำคัญสูงสุดด้านแอโรไดนามิก จากการทดสอบในอุโมงค์ลม 350 ชั่วโมง ลดแรงเสียดทานในรุ่น LT และเพิ่มแรงกดในรุ่น SS
• ภายในห้องโดยสารให้ความสำคัญกับการขับขี่ คันเกียร์ที่ติดตั้งอย่างเหมาะสมบนคอนโซลกลาง สวิทช์ควบคุมที่ใช้งานง่าย พวงมาลัยแบบตัดตรงและวัสดุคุณภาพสูง
• แหวนควบคุมรอบช่องแอร์ทีได้รับการออกแบบเป็นพิเศษเพื่อการควบคุมอุณหภูมิและแรงลมแอร์ ลดจำนวนสวิทช์ให้น้อยลง

“เรามีโอกาสพูดคุยกับเจ้าของรถคามาโรเจนเนอเรชั่นที่ห้า ซึ่งได้ให้ข้อมูลว่าพวกเขาชื่นชอบส่วนไหนของคามาโรรุ่นปัจจุบันและต้องการ ให้คามาโรโฉมใหม่เพิ่มเติมอะไร” อัล ออพเพนไฮเซอร์ หัวหน้าทีมวิศวกรของคามาโรกล่าว “ผลลัพธ์ที่ได้คือคามาโร รุ่นปี 2016 ที่พัฒนาต่อยอดจากความสำเร็จของคามาโรรุ่นปัจจุบัน แต่เพิ่มพละกำลัง สมรรถนะ และเทคโนโลยีที่ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม”

“เราคาดหวังว่าคามาโรใหม่จะยกระดับมาตรฐานรถสปอร์ต และดึงดูดลูกค้าคนรุ่นใหม่ให้หันมาสนใจและชื่นชอบในคามาโรมากขึ้น”

ทีมงาน Chevrolet พลาดปล่อยรูป 2016 Camaro Convertible ผ่านทางหน้าเวปไซต์

รูปภาพอย่างเป็นทางการของรถแบบ “Camaro Convertible” (โฉมเปิดประทุน) ในรุ่น Generation ที่ 6 นั้นล่าสุดก็ได้ถูกเปิดตัวออกมาแล้ว ซึ่งรูปภาพดังกล่าวนั้นได้มีการเปิดเผยผ่านทางเวปไซต์อย่างเป็นทางการของทาง Chevrolet เอง

แต่ภาพดังกล่าวนั้นน่าจะเกิดจากความผิดพลาดของทางทีมงาน Chevrolet ในการสร้างเวปไซต์เองจนมีการลบรูปภาพดังกล่าวออกไปอย่างรวดเร็ว แต่ทางฟอรั่มอย่าง “Camaro6 forums” นั้นเก็บภาพไว้ได้อย่างทันควันในความละเอียดต่ำๆให้แฟนๆได้ชมกัน

รถแบบ Camaro รุ่นใหม่เปิดแบบประทุนนั้นได้ใช้ทรงหลังคาผ้าแบบใหม่ที่ใช้ในรุ่นรถแบบ SS, ล้อแม็กซ์ขนาดใหญ่ที่มีความสวยงามและโฉมแต่งภายนอกที่มีความดุดันมากกว่าปกติในชิ้นส่วนต่างๆ

ปิดท้ายด้วยเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ของรถโฉมแบบ Convertible (เปิดประทุนรุ่นใหม่) ที่่ใช้เป็นแบบเดียวกับ Camaro Coupe รุ่นปัจจุบัน ได้แก่ เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตรแบบ Turbo (เทอร์โบ) ขนาดกำลัง 275 แรงม้า, 3.6 ลิตรแบบ V6 ขนาดกำลัง 335 แรงม้าและ 6.2 ลิตรแบบ V8 ที่ให้กำลัง 455 แรงม้า

เปิดตัวชุดแต่ง “Chevrolet SS Concepts” ในงานอย่าง SEMA Show

Chevrolet แบรนด์รถชื่อดังจากประเทศสหรัฐอเมริกานั้นล่าสุดได้ทำการเปิดตัวรถแบบ “2016 Camaro SS Concept” ออกมาแล้วในงานอย่าง SEMA Show โดยเจ้ารถสปอร์ตนั้นจะมาพร้อมกับโทนสีแดงและดำสะดุดตา

โดยเจ้ารถของทาง Chevrolet Camaro ทั้งสองนั้นจะเป็นรถในรุ่นที่ 6 ของโฉมเข้าไปแล้ว โดยจะใช้ชุดแต่งที่มีประสิทธิภาพและชิ้นส่วนต่างๆที่ยอดเยี่ยมมาทำการตกแต่ง ซึ่งมันถือเป็นชุดแต่งแบบสปอร์ตโฉมแรกของ Camaro ในปีนี้เลยทีเดียว

ซึ่งมันใช้ต้นแบบมาจากรถอย่าง “Camaro SS convertible” (โฉมเปิดประทุน) โดยเริ่มต้นที่โฉมแบบ Red Accent Package concept (โทนสีแดงตัดสลับสีเงินเมทาลิค) ซึ่งสีแดงสุดโหดนั้นทำให้ระดับของ Adrenaline นั้นสูบฉีดเลยทีเดียว

สำหรับโฉมภายนอกนั้นมาพร้อมกับอุปกรณ์การตกแต่งที่มากมายในหลายๆส่วน เช่น กระจังทางด้านหน้าแบบสปอร์ตที่สวยงามกว่าเดิม, ล้อแม็กซ์ขนาดใหญ่รอบวงถึง 20 นิ้วแบบ 5 ก้านในโทนสี Gloss Black (ดำเข้ม), Red Outline (แถบคาดสีแดง) และเครื่องยนต์ทรงพลังแบบใหม่

Camaro SS อีกแบบหนึ่งได้แก่ Camaro SS Black Accent Package concept ที่มาพร้อมกับโทนสีดำเข้มสะดุดตาทั้งส่วนต่างๆ ได้แก่ กระจังทางด้านหน้าแบบสปอร์ต, ไฟท้ายรมดำ, สัญลักษณ์ของแบรนด์ในโทนสีเข้มและล้อแม็กซ์ขนาด 20 นิ้ว

ปิดท้ายด้วยการตกแต่งภายในอย่างสวยงามที่มาพร้อมกับโทนสีดำเข้ม และสัญลักษณ์ของทาง SS Logo และสัญลักษณ์ของ Chevrolet Performance

Chevrolet เปิดตัวชุดแต่ง “COPO Camaro” ในงานที่ Las Vegas

สำหรับแฟนๆที่ชื่นชอบความเร็วนั้นจะต้องถูกใจเป็นแน่แท้เลยทีเดียว สำหรับชุดแต่งรุ่นใหม่นี้ของทางทีมงานจาก Chevrolet ได้แก่เจ้ารถแบบ “COPO Camaro” ที่ใช้ต้นแบบจากรถในรุ่น Generation ที่หก

ทีมงานของ Chevrolet นั้นได้ใช้ตัวถังของรถแบบ “Gen Six COPO Camaro” แต่มีน้ำหนักเบาลงกว่าเดิมทั้งสิ้น 133 ปอนด์ (60.5 กิโลกรัม) เบาลงกว่าเดิมในแบบมาตรฐานกว่า 28% ที่ช่วยทำให้มันมีความเร็วมากขึ้นกว่าเดิม

โดยคาดการณ์ว่าพวกเขาจะต่อยอดไปกับรถอย่าง NHRA Stock และ Super Stock Eliminator ในอนาคตต่อไป (ในปี 2016) พร้อมทั้งใช้พลังงานสะอาดแบบมาตรฐานและระบบปั๊มเชื้อเพลิงแบบใหม่ที่ดีกว่าเดิม

ในส่วนของงานดีไซน์ออกแบบนั้นจัดทำขึ้นโดยทาง “NHRA Camaro Funny Car Driver Courtney Force” ที่ออกแบบสีภายนอกให้เป็นสีแบบ Red Hot (แดงสด)

พร้อมใช้เครื่องยนต์ขนาด 2.9 ลิตรแบบ supercharger, ขนาด 5.7 ลิตรแบบ supercharger และ 7.0 ลิตรในแบบ LS และ LT ตามลำดับ

Chevrolet Camaro ชุดแต่งพร้อมกำลังกว่า 650 แรงม้าในงานที่ SEMA

ในขณะที่งานใหญ่อย่าง 2015 SEMA show ดำเนินไปนั้นก็มีโปรเจคต์ต่างๆและรถที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย โดยล่าสุดนั้นเป็นคิวของรถสปอร์ตสุดงามแบบ 2010 Chevrolet Camaro ที่ได้รับความชื่นชมเป็นอย่างมาก

สำหรับจุดเด่นที่พวกเขานำเสนอออกมาในงานอย่าง SEMA Auto Show นั้นได้แก่ กระจังหน้าขนาดใหญ่มากกว่าปกติที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการออกแบบของรถญี่ปุ่นในสไตล์แต่งแบบ JDM

เจ้ารถสปอร์ตแบบ 2010 Camaro สุดพิเศษคันนี้นั้นจะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 6.2 ลิตรแบบเทอร์โบชาร์จ (turbocharged) ให้กำลังทั้งสิ้น 650 แรงม้าจากการขับเคลื่อนทั้ง 4 ล้อ (Four-Wheel)

ในส่วนของการอัพเกรดอื่นๆนั้น ได้แก่ ท่อไอเสียแบบสปอร์ตเต็มรูปแบบของทาง Flowmaster, ระบบคลัชก์ของทางทีมงาน RAM, ล้อแม็กซ์ขนาดใหญ่ในรุ่นแบบ “Flywheel Force” ที่เคยใช้ใน Toyota Tundra และระบบเกียร์แบบเดียวกับรถ Trail Blazer SS

ปิดท้ายด้วยราคาขายของมันนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 40,000 ดอลล่าร์สหรัฐโดยเปิดให้สั่งจองตามความสนใจของลูกค้า

Chevrolet เปิดตัวรถแบบ “Camaro Special Edition” สุดพิเศษ

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อหลังล่าสุดมีข่าวว่ารถแบบ Chevrolet Camaro นั้นจะฉลองครบรอบ 50 ปีในเร็วๆ นี้ โดยมันจะมาพร้อมกับการเปิดตัวรถรุ่นพิเศษที่เป็น Limited Edition ไม่ซ้ำใครและเป็นการโชว์ของอีกด้วย

โดยรถรุ่นแต่งนี้จะมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า “50th Anniversary Edition” ที่จะเปิดตัวในทั้งแบบ Coupe (รถเก๋ง) และ Convertible 2LT (โฉมเปิดประทุน) ให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ V6 และ V8

ในส่วนของสีภายนอกนั้นจะเปิดตัวโดยสีแบบ Nightfall Gray Metallic (เทาเมทัลลิค) พร้อมกับล้อแม็กซ์อัลลอยด์ขนาด 20 นิ้วโดยเฉพาะ (สำหรับรุ่นอย่าง 50th anniversary)

สำหรับรถแบบ “50th Anniversary edition” นั้นจะใส่โทนสีแบบส้มในหลายๆส่วนเพื่อให้มันตัดกับตัวรถ ได้แก่ ในส่วนของเบาะแบบสปอร์ต, พวงมาลัยแบบสปอร์ต, แผ่นอะลูมิเนียมและที่จับประตู

Chevrolet Camaro ZL1 2017 เปิดตัวแล้วกำลังเริ่มต้นที่ 650 แรงม้า

ในที่สุดรถสปอร์ตแบบ 2017 Chevrolet Camaro ZL1 ก็ได้เปิดตัวสเป็คออกมาแล้วในวันนี้ โดยมันจะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ทรงพลังขนาดใหญ่ 6.2 ลิตรแบบซุปเปอร์ชาร์จ ให้กำลังทั้งสิ้น 650 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 650 lb-ft (881 Nm).

สำหรับการเปิดตัวรายละเอียดครั้งนี้มีขึ้นมาเพื่อในฟอรั่มอย่าง Camaro 6 forums, โดยเครื่องยนต์ขนาด 6.2ลิตร supercharged LT4 V8 นั้นจะทำให้มันแรงวก่ารถแบบ Corvette Z06 อยู่ประมาณ 57 แรงม้าและแรงกว่ารถแบบ Dodge Challenger SRT Hellcat. ทั้งสิ้น 10 แรงม้าและแรงบิดดีขึ้น 10 ปอนด์/ฟุต

นอกจากนี้รถแบบ Camaro ZL1 รุ่นใหม่นั้นจะมีระบบอากาศพลศาสตร์ (Aerodynamic) ที่ดีขึ้น รวมไปถึงแรงกดทางด้านหน้าแบบ Downforce และน้ำหนักก็น้อยลงกว่า 500 กิโลกรัมเลยทีเดียว

Camaro ZL1 เองจะมาพร้อมการขับเคลื่อนแบบเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีดด้วยกันและใช้ยางแบบคุณภาพสูงของทาง Goodyear Eagle F1 ในขนาด 285/30ZR20 ทางด้านหน้าและ 305/30 ทางด้านหลัง

CHEVROLET CAMARO ฉลองครบ 50 ปี 5 ทศวรรษกับ 6 เจนเนอเรชั่นของรถสปอร์ตอเมริกันระดับตำนาน

ดีทรอยท์ – CHEVROLET CAMARO เริ่มทำตลาดตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน ค.ศ. 1966 (พ.ศ. 2509) และได้เสียงตอบรับที่ดีเยี่ยมจากลูกค้าที่ต่างเฝ้ารอรถสปอร์ตครั้งแรกของเชฟโรเลต คามาโรประสบความสำเร็จตั้งแต่ปีแรกของการทำตลาดด้วยยอดขายเกือบ 221,000 คัน และกลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมอเมริกันอันเลื่องชื่อ

ตลอด 50 ปีนับตั้งแต่การเปิดตัวครั้งแรก คามาโรออกทำตลาดรวมทั้งหมด 6 เจนเนอเรชั่น แต่ละรุ่นมีความโดดเด่นและแตกต่างกันออกไปด้วยการออกแบบที่สร้างความตื่นตาตื่นใจตามยุคสมัยและเทคโนโลยีที่ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการขับขี่ที่เร้าใจ ซึ่งทำให้คามาโรรุ่นแรกได้รับความนิยมเป็นอย่างมากนับตั้งแต่เปิดตัววันแรก

เจนเนอเรชั่นที่ 1 ปี 1967-69

คามาโร เจนเนอเรชั่นแรก ถือกำเนิดขึ้นในยุครุ่งเรืองของรถมัสเซิลคาร์และยุคของรถแข่งแดร็กเรซซิ่ง รวมถึงรถแข่งโรดเรซซิ่ง เป็นที่มาของรุ่นแรกเริ่มแซด/28 (Z/28) ในปี 1967 คามาโร เจนเนอเรชั่นที่ 1 ยังทำหน้าที่เป็นรถเพซคาร์ของการแข่งขันอินดี้ 500 ถึงสองครั้ง ครั้งแรกในปี 1967 และครั้งที่สองในปี 1969 โดยรถรุ่นปี 1969 ที่มีตัวถังสีส้ม Hugger Orange และการตกแต่งด้วยสีส้มในห้องโดยสารถือเป็นหนึ่งในรถสปอร์ตที่มีชื่อเสียงโด่งดังและติดตราตรึงใจมากที่สุดในยุคนั้น

เจนเนอเรชันที่ 2 ปี 1970-81

คามาโร เจนเนอเรชั่นที่ 2 เป็นรุ่นที่ทำตลาดยาวนานที่สุดและประสบความสำเร็จมากที่สุด ถึงแม้อุตสาหกรรมยานยนต์จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ทำให้ความนิยมในรถสมรรถนะสูงอย่างแซด28 (Z28) ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ คามาโร รุ่นที่ 2 มาพร้อมโครงสร้างใหม่ล่าสุดที่ลดศูนย์ถ่วงลงและขยายฐานล้อให้กว้างขึ้นเล็กน้อย ทำให้คามาโรรุ่นนี้มีสมรรถนะการขับขี่ที่เป็นเลิศ โดยยังมาพร้อมกับสไตล์การออกแบบที่น่าทึ่งซึ่งได้อิทธิพลมาจากแถบยุโรป คามาโรทำยอดขายต่อปีสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 282,571 คันในปี 1979 รวมถึงยอดขายแซด28 (Z28) เกือบ 85,000 คัน

เจนเนอเรชั่นที่ 3 ปี 1982-92

คามาโร เจนเนอเรชั่นที่ 3 ได้รับการเปิดตัวพร้อมโครงสร้างใหม่หมด ช่วงล่างด้านหน้าแบบสตรัทที่ทันสมัย พวงมาลัยแร็คแอนด์พีเนียน และเทคโนโลยีใหม่อีกมากมาย แชสซีส์ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ยกระดับรถที่ได้รับการกล่าวขวัญถึงศักยภาพการควบคุมที่ยอดเยี่ยมอยู่แล้ว กลายเป็นเครื่องจักรสังหารบนสนามแข่ง โดยเฉพาะรุ่นที่มาพร้อมแพ็คเกจ 1แอลอี (1LE) ที่เปิดตัวในปี 1988 สไตล์ตัวถังที่ดุดันยกระดับสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมของตัวรถ และนับเป็นคามาโรรุ่นแรกที่มาพร้อมตัวถังแฮทช์แบ็ก นอกจากนี้ แซด28 (Z28) รุ่นปี 1982 ยังเป็นรถอเมริกันโปรดักชั่นคาร์คันแรกที่มาพร้อมกราวด์เอฟเฟคต์เพิ่มความลู่ลม และได้รับรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปีจากมอเตอร์เทรนด์ (Motor Trend Car of the Year)

เจนเนอเรชั่นที่ 4 ปี 1993-2002

สมรรถนะถูกยกระดับอย่างต่อเนื่องสำหรับคามาโร เจนเนอเรชั่นที่ 4 เครื่องยนต์ที่ทรงพลังยิ่งขึ้น และการปรับปรุงแชสซีส์ใหม่ที่พัฒนาบนพื้นฐานของเจนเนอเรชั่นที่ 3 การออกแบบตัวถังมีวิวัฒนาการให้มีสัดส่วนที่โดดเด่นยิ่งขึ้น รวมถึงกระจกบังลมที่ลาดเอียงซึ่งทำให้ตัวรถมีความปราดเปรียวอย่างแท้จริง ด้านหน้าของคามาโรรุ่นที่ 4 นี้ได้รับการปรับโฉมใหม่ในปี 1998 พร้อมกับการแนะนำรุ่นแอลเอส1 วี-8 (LS1 V-8) ทำให้รุ่นแซด28 (Z28) และเอสเอส (SS) รำลึกถึงยุครุ่งเรืองของรถมัสเซิลคาร์

เจนเนอเรชั่นที่ 5 ปี 2010-2015

ระยะเวลา 7 ปีที่ขาดหายไประหว่างเจนเนอเรชั่นที่ 4 และการเปิดตัวเจนเนอเรชั่นที่ 5 (ซึ่งเผยโฉมปี 2009 ในฐานะรุ่นปี 2010) อาจดูไม่ยาวนาน แต่ก็เหมือนชั่วนิรันดร์สำหรับโลกยานยนต์ เชฟโรเลตตัดสินใจว่าคามาโรรุ่นใหม่จะต้องสืบสานตำนานความสำเร็จอันยาวนานซึ่งถือเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง คามาโร รุ่นที่ 5 มียอดจำหน่ายมากกว่า 500,000 คัน และแซงหน้ารถสปอร์ตคู่แข่งเป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน พร้อมกับต่อยอดเป็นรถรุ่นใหม่ที่เน้นการขับขี่ในสนามแข่งอย่าง 1แอลอี (1LE) แซด/28 (Z/28) และแซดแอล1 (ZL1)

เจนเนอเรชั่นที่ 6 ปี 2016 เป็นต้นมา

คามาโร รุ่นที่ 6 คือคามาโรที่มีความเหนือชั้นที่สุด ทั้งในด้านสมรรถนะ เทคโนโลยี และความประณีตหรูหราซึ่งอัดแน่นอยู่ในโครงสร้างที่มีน้ำหนักเบาลงและแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ทำให้ได้รับรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปีจากมอเตอร์เทรนด์ในปี 2016 สำหรับปี 2017 มีการเปิดตัวรุ่น 1แอลอี (1LE) ใหม่สำหรับสนามแข่ง และแซดแอล1 (ZL1) ซึ่งขับเคลื่อนด้วยขุมพลังวี 8 ความจุ 6.2 ลิตร ซูเปอร์ชาร์จ รีดพละกำลังถึง 640 แรงม้า และส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีดรุ่นใหม่

คามาโร เฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี

เชฟโรเลตเฉลิมฉลอง 50 ปีของคามาโรในช่วงซัมเมอร์นี้ด้วยกิจกรรมมากมาย และการเข้าร่วมงานแสดงรถคลาสสิก วู๊ดเวิร์ด ดรีม ครูสในวันที่ 20 สิงหาคม รวมถึงการเยี่ยมชมศูนย์การผลิตคามาโรที่แลนซิง แกรนด์ ริเวอร์ ซึ่งเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม

สำหรับรายละเอียดของกิจกรรมเข้าชมที่ www.camarofifty.com ส่วนข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับสื่อมวลชน ทั้งภาพในอดีต การออกแบบดีไซน์ และเรื่องราวความเป็นมา เข้าชมที่ www.camarofiftymedia.com

รู้หรือไม่: เชฟโรเลตใช้ชื่อ Z/28 ด้วยการใช้เครื่องหมายทับในคามาโรรุ่นแรก และเปลี่ยนจากเครื่องหมายทับเป็นเครื่องหมายขีด Z-28 ระหว่างการทำตลาดคามาโรรุ่นที่ 2 เชฟโรเลตเปลี่ยนมาใช้ชื่อ Z28 ในการจัดจำหน่ายคามาโร รุ่นที่ 3 และรุ่นที่ 4 ก่อนกลับมาใช้เครื่องหมายทับอีกครั้งสำหรับคามาโร Z/28 รุ่นปี 2014

Chevrolet เปิดตัวรถแบบ “Camaro ZL1” ออกมาแล้วในการแข่งขัน NASCAR

หลังจากก่อนหน้านี้มีการเปิดตัวรถแข่งรุ่นต่างๆ เช่น Toyota Camry, Ford Fusion, และ Chevy SS ออกมาแล้วในการแข่งขันรถอย่าง NASCAR ชื่อดังในประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ล่าสุดนั้นทางทีมงานวิศวกรและนักออกแบบของ Chevrolet ก็ได้เปิดตัวรถแบบ “Camero ZL1” ออกมาแล้วเพื่อลงแข่งขันเช่นกัน

Chevrolet แบรนด์รถขนาดใหญ่ในประเทศสหรัฐอเมริกานั้นได้เปิดตัวรถรุ่นแบบ ZL1 ออกมาแล้ว ซึ่งเป็นตัวเดียวกับรถที่ใช้แข่งขันในรายการ Daytona500 แต่มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบและรูปลักษณ์การดีไซน์ให้เหมือนรถแข่งมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยมาพร้อมกับรูปแบบของไฟ LED ทางด้านหน้าแบบใหม่และรูปทรงให้ดูสปอร์ตมากขึ้น

ในส่วนของเครื่องยนต์นั้นจะใช้เป็นขนาดใหญ่ขนาดความจุทั้งสิ้น 6.2 ลิตรแบบ Supercharged V8 ขนาดใหญ่มากขึ้นทั้งสิ้น 650 แรงม้า พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติขนาด 10 สปีดรุ่นใหม่ล่าสุด พร้อมกับหลังคาแบบทรงแข็งที่ช่วยทำให้มันมีความแข็งแรงเหมาะสำหรับการแข่งมากขึ้นกว่าเดิม

สำหรับการขับขี่นั้นจะได้ทางนักขับขี่อย่าง Jeff Gordon นักขับขี่ระดับตำนานในการเปิดตัวรถรุ่นใหม่นี้ออกมา โดยเขาเคยชนะเลิศในการแข่งขัน NASCAR มาแล้วมากถึง 4 สมัยรวมไปถึงรายการ Daytona500 ถึง 3 สมัยและปิดท้ายด้วยรายการอย่าง 24 Hours Of Daytona อีกหนึ่งครั้งด้วยกัน

รถสปอร์ตแบบ Chevrolet Camaro รวมไปถึงรถรุ่นใหม่ที่เปิดตัวอย่าง ZL1 นั้นจะได้เป็นรถเปิดตัวในการแข่งขัน NASCAR และ Daytona500 ซึ่งไม่ใช่ครั้งแรกหลังจากมันเคยเปิดตัวออกมาแล้วในปี 2011,2009,1969และ1968 ตามลำดับเป็นต้นมา

รุ่นใหญ่ไฟกระพริบ! เปิดตัว “all-new Chevrolet Camaro” ในงานที่ Geneva

หลังจากอึมครึมกันอยู่นานในที่สุดแบรนด์อย่าง Chevrolet ชื่อดังจากประเทศสหรัฐอเมริกานั้นก็ได้เปิดตัวรถแบบใหม่ของพวกเขาออกมาแล้วในงานอย่าง Geneva Auto Show ในประเทศสวิตเซอแลนด์ โดยมาพร้อมกับรถแบบ “All-new Chevrolet Camaro” รุ่นใหม่ล่าสุด

สำหรับรถสปอร์ตแบบ “All-new Chevrolet Camaro” รุ่นล่าสุดนี้จะมาพร้อมชุดแต่งอย่างเป็นทางการของพวกเขาในชื่อรุ่นแบบ “Track Concept” ที่พร้อมจะเปิดตัวทั้งในบ้านเกิดอย่างประเทศสหรัฐอเมริกาและในยุโรปไปพร้อมๆกันด้วยในอนาคตอันใกล้นี้เพื่อต่อสู้กับแบรนด์ใหญ่อื่นๆในแบบสปอร์ต

ชุดแต่งดังกล่าวนั้นดูแลโดยทีมงานอย่าง Chevy performance parts อย่างเป็นทางการ โดยมาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 6.2 ลิตรแบบ V8 Engine ให้กำลังทั้งสิ้น 453 PS (446 แรงม้า) พร้อมแรงบิดสูงสุดถึง 617 Nm. (445 ปอนด์/ฟุต) พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ 8 สปีดรุ่นใหม่ของพวกเขา

อีกทั้งยังมาพร้อมกับระบบการทรงตัวแบบใหม่อย่าง Magnetic Ride Suspension ของพวกเขา, ชุดท่อไอเสียแบบสปอร์ตท่อคู่จากทาง Chevrolet เอง, ระบบเบรคชั้นยอดของทาง Brembo และปิดท้ายด้วยชุดแต่งรอบคันแบบสปอร์ตเต็มรูปแบบที่มีเฉพาะในชุดแต่งแบบ “Track Concept” ของพวกเขาเท่านั้นเอง

Chevrolet Track Concept รุ่นใหม่นี้นั้นจะปิดท้ายด้วยชุดแต่งภายนอกเพิ่มเติม ได้แก่ สีเขียวสดใสสะดุดตาแบบ Green Satin, สเกิร์ตชุดแต่งรอบคัน, ท่อไอเสียแบบสปอร์ตเต็มรูปแบบ, สปอยเลอร์ทางด้านหลังแบบ 3 ชิ้น, สัญลักษณ์ป้ายแบบ Chevrolet Bowtie, ล้อแม็กซ์ขนาดใหญ่ถึง 20 นิ้วแบบอัลลอยด์ในโทนสีแบบดำเข้ม และยางขนาดใหญ่คุณภาพสูงแบบขนาด 285/30 ทางด้านหน้าและขนาดรอบวง 305/30 ทางด้านหลังส่งท้าย

General Motors เผยภาพเรนเดอร์ Chevrolet Camaro เวอร์ชั่นรถแข่ง

สำหรับ Chevrolet Camaro นั้น กำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก เมื่อยอดขายลดลงไปอย่างน่าตกใจ แม้ว่าจะมีการเปิดตัวรุ่นสีตัวถังใหม่ๆ ออกมาเพิ่มเติมในตลาดก็ตาม ซึ่งจุดนี้เองทำให้ General Motors ต้องมาหาจุดขายใหม่ และสร้างกระแสนิยมให้กลับมาอีกครั้ง

ล่าสุด Instagram ของ Generalmotorsdesign ซึ่ง เป็น Official ของ GM ได้เผยภาพ CG Render ของ Chevrolet Camaro ในเวอร์ชั่นรถแข่ง ที่ดูเหมือนจะอยู่ในคลาส GT3 ที่มาพร้อมกับชุดแต่ง Wide Body และฝากระโปรงหน้าใหม่ที่มีโหนกสครู๊ปอันดุดันทรงพลังตามสไตล์รถ Muscle Car แถมยังมีปีกสปอยเลอร์ท้ายแบบ GT-Wing ขนาดใหญ่ติดตัวมาได้

หากมองกลับไปที่วงการมอเตอร์สปอร์ตของ Chevrolet ในปัจจุบัน ก็ดูเหมือนว่า Chevy จะให้ความสำคัญกับการแข่งขัน และการโปรโมท Chevrolet Corvette ซะมากกว่า ทำให้ Chevrolet Camaro ที่เคยเป็นดาวเด่นในวงการมอเตอร์สปอร์ตมาก่อน ถูกเลือนลางจางหายไป และการเผยภาพเรนเดอร์จาก Official ครั้งนี้ ก็อาจจะมีความเป็นไปได้สูงที่ทาง GM จะนำ Chevrolet Camaro กลับมาลง Track อีกครั้ง

The post General Motors เผยภาพเรนเดอร์ Chevrolet Camaro เวอร์ชั่นรถแข่ง first appeared on รถใหม่ 2021-2022 รีวิวรถ, ราคารถใหม่, ข่าวรถใหม่, รถยนต์.

GM เผยภาพเรนเดอร์ Official ของ SUV รุ่นใหม่ ที่คล้ายกับ Camaro

เป็นที่ทราบกันดีว่า General Motors หรือ GM เตรียมที่จะเปิดตัว SUV พลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่ ภายใต้แบรนด์ Chevrolet ออกสู่ตลาด และล่าสุดได้มีการเผยโฉมภาพเรนเดอร์ชุดใหม่ของรถอเนกประสงค์ที่มีเส้นสาย และหน้าตาคล้ายกับ Chevrolet Camaro

โดยภาพเรนเดอร์ชุดนี้ ถูกโพสบน Instagram ของ GM Design แต่ไม่มีการระบุชื่อรุ่นว่าจะเป็นรุ่นอะไรกันแน่ แต่จะอยู่ภายใต้แบรนด์ Chevrolet ในรูปแบบรถอเนกประสงค์ SUV และมี # เขียนไว้ประมาณว่า นี่คือไอเดียการออกแบบสำหรับรถรุ่นใหม่ในอนาคต

จากภาพที่เราได้รับชมนั้น ก็ต้องบอกว่า SUV รุ่นใหม่นี้ มีดีไซน์ที่ดุดัน และทรงพลัง ซึ่งกระแสข่าวนั้นจับไปโยงถึงแนวคิด Chevrolet Camaro ในเวอร์ชั่น SUV EV เลยทีเดียว เพราะคู่แข่งอย่าง Ford เอง ก็มี Ford Mustang Mach-E รถอเนกประสงค์สมรรถนะสูงทำตลาดไปก่อนหน้าแล้ว และทางค่าย Chevrolet เองก็ยังคาดโมเดลตรงจุดนี้อยู่ หรือนี่อาจจะเป็นแนวคิดของ Chevrolet Camaro ในเวอร์ชั่น SUV EV ก็เป็นได้ ซึ่งหากมีความคืบหน้าอย่างไร 9carthai.com จะรีบนำมาอัปเดตให้ทราบโดยทั่วกัน

The post GM เผยภาพเรนเดอร์ Official ของ SUV รุ่นใหม่ ที่คล้ายกับ Camaro first appeared on รถใหม่ 2021-2022 รีวิวรถ, ราคารถใหม่, ข่าวรถใหม่, รถยนต์.

พาชมรถแข่งตัวเต็งล่าแชมป์ Nascar ฤดูกาลปี 2022 บอกเลยว่าแต่ละคันสวยมาก

การแข่งขัน Nascar เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งการแข่งขันที่ใช้พิสูจน์สมรรถนะของขุมพลัง และเทคโนโลยีรูปแบบใหม่ ที่แรงที่สุดรองจากการแข่งขัน F1 ของบรรดาค่ายรถ ซึ่งเราจะได้เห็นขุมพลังที่ติดตั้งในรถแข่งเหล่านี้ หรือนำเอาเทคโนโลยีต่างๆ มาปรับใช้สำหรับรถในเวอร์ชั่น Product Car

โดยการแข่งขัน Nascar ฤดูกาล 2022 นี้ ค่ายรถที่เป็นตัวเต็ง 3 ค่ายอย่าง Ford, Chevrolet และ Toyota ต่างก็พากันเผยโฉมรถแข่งเวอร์ชั่นใหม่ ที่พร้อมจะล่าแชมป์ และพิสูจน์ว่าตัวเองเป็นเจ้าแห่งความเร็วด้วยกันทั้งสิ้น และนี่คือภาพชุดแรกของเหล่าบรรดารถแข่งจากทั้ง 3 ค่าย ที่เราหามาให้ได้ยลโฉมกัน

สำหรับฟอร์ด จะยังคงเป็นการใช้ Ford Mustang รถ Muscle Car ตัวแรงของทางค่าย โดยในฤดูกาลปี 2022 นี้ จะมาในสีตัวถังใหม่สีน้ำเงิน และล้อสีน้ำเงิน ส่วนรายละเอียดในด้านสเปค และเทคนิคต่างๆ ยังคงถูกปิดไว้เป็นความลับ

และคู่แข่งรุ่นสำคัญก็คงหนีไม่พ้น Chevrolet ที่ส่ง Chevrolet Camaro หนึ่งใน Muscle Car ที่เป็นคู่กัดตลอดกาลของ Mustang ลงชิงชัย มาพร้อมกับสีตัวถังใหม่เช่นเดียวกัน

ส่วนอีกหนึ่งรุ่นที่น่าจับตามองไม่แพ้กัน และถือเป็นค่ายรถญี่ปุ่นเพียงรายเดียวที่มีลุ้นคว้าชัยในการแข่งขัน Nascar นั่นก็คือ Toyota ที่ส่ง Toyota TRD Camry เวอร์ชั่นใหม่ ลงประชันความเร็วในฤดูกาล 2022

ส่วนค่ายไหนจะคว้าถ้วย Nascar และพิสูจน์ตัวเองว่าเป็นเจ้าแห่งความเร็วในปี 2022 นั้น เราคงต้องติดตามกันให้ดี

The post พาชมรถแข่งตัวเต็งล่าแชมป์ Nascar ฤดูกาลปี 2022 บอกเลยว่าแต่ละคันสวยมาก first appeared on รถใหม่ 2021-2022 รีวิวรถ, ราคารถใหม่, ข่าวรถใหม่, รถยนต์.